1. การทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน: ในการทำความสะอาดพื้นผิวทาสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือสารทำความสะอาดที่รุนแรงซึ่งอาจทำให้สีเสียหายได้
2. หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: การสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานอาจทำให้สีบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ซีดจางหรือเปลี่ยนสีได้วางเฟอร์นิเจอร์ให้ห่างจากหน้าต่างหรือใช้ผ้าม่าน มู่ลี่ หรือฟิล์มป้องกันรังสียูวีเพื่อป้องกันแสงแดดที่มากเกินไป
3. การป้องกันการหก: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการวางของเหลวโดยตรงบนพื้นผิวที่ทาสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยเฉพาะสารที่เป็นกรดหรือมีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น แอลกอฮอล์ กาแฟ หรือน้ำผลไม้หากเกิดการรั่วไหล ให้ซับออกทันทีด้วยผ้านุ่มที่ซับน้ำได้ เพื่อป้องกันคราบสกปรกหรือความเสียหาย
4. การป้องกันของมีคมและการหยิบจับที่หยาบ: ใช้ความระมัดระวังเมื่อวางหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ เนื่องจากขอบคมหรือวัสดุที่หยาบอาจทำให้สีเป็นรอยหรือบิ่นได้ใช้แผ่นป้องกันหรือแผ่นรองแก้วรองใต้สิ่งของเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับพื้นผิวที่ทาสี
5. ปัดฝุ่นเป็นประจำ: ปัดฝุ่นพื้นผิวทาสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นประจำด้วยผ้านุ่มไม่เป็นขุยหรือไม้ปัดฝุ่นขนนกเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือเศษผงต่างๆช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและรักษารูปลักษณ์ของสี
6. การควบคุมความชื้นและความชื้น: ความชื้นที่มากเกินไปและระดับความชื้นสูงอาจทำให้สีบนเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นฟองหรือหลุดลอกได้เก็บเฟอร์นิเจอร์ไว้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และติดเครื่องลดความชื้นหรือเครื่องปรับอากาศหากจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ชื้น
7. ทาสีและทาสีใหม่: หากสีบนเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นรอยหรือเสียหาย ให้ลองทาสีหรือทาสีใหม่เพื่อคืนสภาพเดิมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือปฏิบัติตามแนวทางของผู้ผลิตเพื่อรับผลิตภัณฑ์สีเติมแต่งหรือสารขัดเงาที่เหมาะสม
เมื่อปฏิบัติตามวิธีการดูแลรักษาเหล่านี้ คุณจะสามารถช่วยรักษาพื้นผิวสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้ จึงคงความสวยงามไปอีกหลายปี
ผู้ติดต่อ: Miss. Beverly
โทร: +8613802813705
แฟกซ์: 86-0757-23279199